เว็บตรง / บาคาร่าเว็บตรง เตรียมสึก พระมหาไพรวัลย์ เปลี่ยนชื่อไม่มี ‘พระ’ นำหน้า โพสต์ร่ำลาเป็นนัย

เว็บตรง / บาคาร่าเว็บตรง เตรียมสึก พระมหาไพรวัลย์ เปลี่ยนชื่อไม่มี ‘พระ’ นำหน้า โพสต์ร่ำลาเป็นนัย

เว็บตรง / บาคาร่าเว็บตรง พระมหาไพรวัลย์ โพสต์เป็นนัย หลังได้รับการแจ้งเตือนเปลี่ยนชื่อ เหลือแค่ “ไพรวัลย์ วรรณบุตร” ไม่มี “พระ” นำหน้า ด้าน พระมหาสมปอง โพสต์เศร้า ทำเอาบรรดาญาติโยมต่างพากันตีความว่า พส. กำลังจะสละสมณเพศในไม่ช้า หรือไม่ หลังจากออกมาโพสต์ข้อความเป็นนัยและมีการเปลี่ยนชื่อเฟซบุ๊กแฟนเพจ โดยไม่มีคำว่าพระนำหน้า สำหรับ พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ ซึ่งเมื่อวานนี้ ( 28 พ.ย.64) ได้โพสต์ข้อความว่า “ขอบคุณพระศาสนาที่มอบทุกอย่างให้กับเด็กบ้านนอกคนหนึ่งคนนี้ ตลอดเวลา 18 ปีที่ผ่านมา ขอบคุณข้าวน้ำจากศรัทธาของญาติโยมทุกคน” และ “หมดเวลาแล้ว ฉันคงต้องไป”

จากนั้นพระมหาไพรวัลย์ ยังได้มีการเปลี่ยนชื่อเฟซบุ๊กแฟนเพจของตัวเองเป็น “ไพรวัลย์ วรรณบุตร” โดยไม่มีคำว่า “พระ” นำหน้าชื่อ และในรายละเอียดของเพจ ระบุว่า “ครูสอนพิเศษ/ครู”

ขณะที่ล่าสุดของวันเดียวกัน พระมหาไพรวัลย์ ได้โพสต์ภาพ กราบพระมหาสมปองผ่านเฟซบุ๊ก พร้อมข้อความ ระบุว่า “แม้อาจจะเป็นเพียงช่วงเวลาสั้นๆ แค่ 3 เดือนเท่านั้น ที่ผ่านมา แต่มันเป็นช่วงเวลาที่พิเศษมากๆ สำหรับชีวิตของผมนะครับ พระอาจารย์คือพี่ชายที่น่ารักที่สุดสำหรับผม คือครูบาอาจารย์ที่ให้วิชาและความรู้ต่างๆ มากมายสำหรับการเผยแผ่ธรรมะกับผม”

“กราบขอบพระคุณที่ไม่เคยรังเกียจพระน้องชายรูปนี้ กราบขอบพระคุณสำหรับทุกสิ่งที่พระอาจารย์มอบให้ ไม่ว่าจะในฐานะอะไรก็ตาม จะเคารพรักและศรัทธาพระอาจารย์ตลอดไปนะครับ”

นอกจากนี้ เฟซบุ๊กแฟนเพจของ “พระมหาสมปอง ตาลปุตฺโต” ได้โพสต์ภาพ พระมหาไพรวัลย์ ในหลายๆ เหตุการณ์พร้อมข้อความระบุว่า “รัก” โดยแสดงความรู้สึกเศร้า รวมถึงโพสต์ภาพที่ร่วมกับ พระมหาไพรวัลย์ ลงพื้นที่ต่างๆ พร้อมข้อความ “รู้สึกอย่างไร เติมเองนะลูกเพจที่รักทุกท่าน” ซึ่งก็มีญาติโยม เข้ามาถวายกำลังใจ พร้อมเคารพในการตัดสินใจครั้งนี้ หากเป็นไปตามที่พระมหาไพรวัลย์ เคยประกาศไว้

“แม้อาจจะเป็นเพียงช่วงเวลาสั้นๆ แค่ 3 เดือนเท่านั้น ที่ผ่านมา แต่มันเป็นช่วงเวลาที่พิเศษมากๆ สำหรับชีวิตของผมนะครับ พระอาจารย์คือพี่ชายที่น่ารักที่สุดสำหรับผม คือครูบาอาจารย์ที่ให้วิชาและความรู้ต่างๆ มากมายสำหรับการเผยแผ่ธรรมะกับผมกราบขอบพระคุณที่ไม่เคยรังเกียจพระน้องชายรูปนี้ กราบขอบพระคุณสำหรับทุกสิ่งที่พระอาจารย์มอบให้ ไม่ว่าจะในฐานะอะไรก็ตามจะเคารพรักและศรัทธาพระอาจารย์ตลอดไปนะครับ”

ทั้งนี้ จากประเด็นทั้งหมดคงจะต้องรอทาง พระมหาไพรวัลย์ ออกมาชี้แจงเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวอีกครั้งหนึ่ง

‘หมอยง’ เผย โควิดโอไมครอน แพร่เชื้อได้ไม่น้อยกว่าเดลต้า

หมอยง เผย โควิดโอไมครอน แพร่เชื้่อได้ไม่น้อยกว่าโควิดเดลต้า แต่ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าผู้ป่วยโควิดชนิดดังกล่าว จะมีอาการรุนแรงขึ้นหรือไม่ ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ได้โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กพูดถึงโควิดสายพันธุ์โอไมครอนที่ในขณะนี้เป็นที่กังวลและจับตามองเป็นอย่างมาก

โดยหมอยงระบุว่า “ขณะนี้ทั่วโลกให้ความสนใจมากกับไวรัสสายพันธุ์ใหม่โอไมครอน ทั้งนี้เพราะการกลายพันธุ์เฉพาะในส่วนหนามแหลม สามารถเก็บจาก การกลายพันธุ์ที่เกิดในสายพันธุ์แอลฟา เบต้า และเดลต้า มาแล้ว ยังเพิ่มตำแหน่งการกลายพันธุ์เพิ่มขึ้นอีก 30 ตำแหน่ง ดังแสดงในรูป

อย่างไรก็ตามสิ่งที่จะต้องตอบคำถามขณะนี้คือ

1 ไวรัสนี้ติดง่ายแพร่กระจายง่ายหรือไม่ จากการดูพันธุกรรมไวรัสนี้ พัฒนาเพิ่มขึ้นจากสายพันธุ์เดลต้า ที่แพร่กระจายง่ายอยู่แล้ว อย่างน้อยการแพร่กระจายของโรค ก็ไม่น่าจะน้อยกว่าสายพันธุ์เดลต้า

2 ความรุนแรงของโรคโควิด 19 จากข้อมูล ที่ได้มาจากแอฟริกาใต้เบื้องต้น ในหลายครอบครัว พบว่าสายพันธุ์นี้มีอาการไม่มาก ทั้งในกลุ่มที่ได้รับวัคซีนแล้วและไม่ได้รับวัคซีน โดยธรรมชาติของไวรัสที่แพร่กระจายง่าย ไวรัสเองก็ต้องการมีชีวิตอยู่ยาวนาน หรือแพร่พันธุ์ได้ยาวนาน ในการศึกษาในอดีตสำหรับไวรัสตัวอื่น ที่มีการถ่ายทอดลูกหลานมายาวนาน หรือการเพาะเลี้ยงจากรุ่นต่อรุ่นไปยาวๆ จะพบว่าความรุนแรงจะลดน้อยลง ในอดีตการทำวัคซีนจึงใช้วิธีการเพราะเลี้ยงไปเรื่อยๆ 30-40 ครั้ง ก็จะได้ไวรัสที่อ่อนฤทธิ์ลง แล้วเอามาทำวัคซีนเช่นการทำวัคซีนโปลิโอชนิดเชื้อเป็น

อย่างไรก็ตามสำหรับไวรัสตัวนี้ยังใหม่เกินไป ที่จะบอกว่า อาการของโรคลดน้อยลงหรือเพิ่มขึ้น จะต้องดูจำนวนผู้ป่วยที่ต้องเข้าโรงพยาบาล ผลการรักษา อัตราการเสียชีวิต ระยะเวลาที่นอนโรงพยาบาล เปรียบเทียบกับสายพันธุ์เดิมที่มีอยู่ เช่นสายพันธุ์ เดลต้า

3 การตรวจทางห้องปฏิบัติการ การตรวจหาพันธุกรรมในการวินิจฉัยที่เรียกว่า RT-PCR ยังใช้ได้ดีอยู่หรือไม่ แต่จากการที่ได้พิจารณาตามรหัสพันธุกรรม อย่างน้อยการตรวจทางห้องปฏิบัติการส่วนใหญ่จะใช้ N gene อย่างน้อย 1 ยีนส์ ในตำแหน่งของ N gene เป็นตำแหน่งที่ค่อนข้างคงที่ ไม่มีผลกับการตรวจ แต่อาจจะมีผลต่อการตรวจในยีน RdRp ก็ขึ้นอยู่กับการออกแบบที่ใช้กันอยู่ ที่ห้องปฏิบัติการของศูนย์ ที่ทำอยู่ขณะนี้ เมื่อนำมาเปรียบเทียบ ตามรหัสพันธุกรรม ก็พบว่ายังสามารถใช้ได้ดี ส่วนของบริษัทต่างๆ ก็คงต้องมีการตรวจสอบโดยเฉพาะในส่วนของยีนอื่นที่ไม่ใช่ N ยีนส์

4 การศึกษาตำแหน่งพันธุกรรมที่เปลี่ยนแปลงบนหนามแหลม มีความน่าสนใจมาก ที่มีการเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นอย่างมาก ดังนั้น สิ่งที่จะต้องศึกษาอย่างยิ่งก็คือจะทำให้ประสิทธิภาพของวัคซีนชนิดที่ใช้สไปรท์เพียงตัวเดียวลดลงหรือไม่ เช่นไวรัส Vector และ mRNA การตอบสนองต่อ T และ B เซลล์เป็นอย่างไร ต้องมีการศึกษาอย่างเร่งด่วน

การสื่อสารทางด้านสังคม ขณะนี้มีการตื่นตัวกันอย่างมาก ดังนั้นข้อมูลที่ให้กับประชาชนทั่วไป จะต้องเป็นข้อมูลที่ถูกต้อง โปร่งใส ใช้ความจริง เหตุผลทางวิทยาศาสตร์มากกว่าความรู้สึก ในการแพร่กระจายข่าวออกไป ในบางครั้งมีผลกระทบทางจิตใจค่อนข้างมาก โดยเฉพาะข่าวที่ไม่เป็นความจริง และการ bully ในสังคม ไม่ได้ช่วยอะไรเลยต่อภาพรวม

การวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์ และการถอดรหัสพันธุกรรม ในภาวะเช่นนี้เราต้องการเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ และการทดลองมาตอบคำถามทั้งหมด การถอดรหัสพันธุกรรมจะต้องดำเนินการต่อไปและเพิ่มจำนวนขึ้น ให้ได้เพื่อเป็นการเฝ้าระวัง สำหรับประเทศไทยในอดีตจนถึงปัจจุบัน เกือบ 2 ปีมีการถอดรหัสพันธุกรรมไปทั้งตัว ประมาณ 6,000 ตัว ถือว่าไม่มากถ้าเปรียบเทียบกับจำนวนผู้ป่วยถึง 2 ล้านคน

ขณะนี้การถอดรหัสพันธุกรรมหลัก จะอยู่ที่กรมวิทยาศาสตร์ที่ทำได้เป็นจำนวนมาก ในสถาบันโรงเรียนแพทย์เป็นส่วนเสริม สำหรับที่ศูนย์ จะถอดรหัสพันธุกรรมทั้งตัวเพียงเดือนละ 30 ตัว และถอดส่วนของสไปรท์ อีกเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้การพัฒนาการตรวจจำเพาะหาสายพันธุ์เลยซึ่งทำได้เร็วมาก ก็ได้พัฒนามาโดยตลอด การตรวจหาสายพันธุ์สามารถทำได้ตั้งแต่ตรวจหาจำเพาะ ตรวจหาตำแหน่งที่มีความหลากหลายทางพันธุกรรม กับการถอดรหัสทั้งตัว ที่ศูนย์ทำมาตลอดในการเฝ้าระวังในประเทศไทย

หมอแล็บฯ โพสต์เตือนวัยรุ่นแห่เอากาวร้อนติดฟันแฟชั่น อันตราย อย่าหาทำ

กระแสวัยรุ่นใช้กาวร้อนติดฟันแฟชั่น หมอแล็บแพนด้า โพสต์เตือน อันตราย อย่าหาทำ ไม่ต่างจากอมสารเคมีไว้ในปาก ระยะยาวไม่ดีแน่

จากกรณีที่มีกระแสวัยรุ่นพากันนำกาวร้อนมาติดฟันแฟชั่น ล่าสุดวันนี้ (26 พ.ย.64) เฟซบุ๊กแฟนเพจ หมอแล็บแพนด้า ได้ออกมาโพสต์ปรามพฤติกรรมาดังกล่าวนั้นเสี่ยงอันตราย ในกาวร้อนนั้นมี สารไซยาโนอะคริเลต เมื่อนำไปใช้แบบผิดๆ ก็เหมือนอมสารเคมีไว้นานๆ ตลอดเวลา ระยะยาวส่งผลร้ายแรงอะไรบ้างก็ไม่อาจทราบได้

โดยข้อความจากโพสต์ของหมอแล็บฯ ระบุไว้ดังนี้ “เห็นวัยรุ่นหมอฟันน้อยเอากาวร้อนมาติดฟันแฟชั่นแล้วเป็นห่วงครับ ถ้าไม่นับเรื่องกาวร้อน หลายคนจากฟันสวยๆกลายเป็นฟันเกฟันเน่า ทีนี้เรามาดูเรื่องกาวร้อนกันบ้าง ทั้งกาวร้อนและกาวช้าง เป็นกาวที่มี ไซยาโนอะคริเลต (cyanoacrylate) เป็นสารตั้งต้นเหมือนกัน ซึ่งทำให้มีคุณสมบัติในการยึดติดที่แห้งเร็วและแข็งแรง เมื่อเทียบกับกาวประเภทอื่น มีคุณสมบัติยึดติดแห้งเร็ว เราก็เลยเอาสารนี้มาผลิตเป็นกาว ทำให้วัสดุต่างๆ ติดทนนาน

“กาวตัวนี้พยายามอย่าให้สัมผัสกับผิวหนังโดยตรงนะคร้าบ เพราะจะระคายเคือง และถ้าสูดดม จะระคายเคืองต่อเนื้อเยื่อทางเดินหายใจได้ หรืออาจเกิดพิษต่อเนื้อเยื่อได้อีกด้วยนา และหากเอาเข้าปาก หรือเอาไปติดเหล็กดัดฟันแฟชั่น ก็เหมือนเราอมสารเคมีไว้นานๆตลอดเวลา ในระยะยาวจะเกิดอะไรบ้างก็ไม่รู้ อย่าไปทำตามนะครับ พบทันตแพทย์ดีที่สุด”

ทั้งนี้นอกจากอันตรตายจากกาวร้อนที่นำมาใช้ติดฟันแฟชั่นแล้ว การติดตั้งวัสดุจัดฟันแฟชั่นที่ผิดสุขลักษณะ ไม่ได้มาตราฐาน ไม่มีระบบการจัดการทำความสะอาด และที่สำคัญที่ได้รับการขออนุญาตเหมือนกับคลินิก ผ่าน กระทรวงสาธารณสุข ผลลัพธ์ที่ตามมา อาจจะทำให้ให้เกิดผลร้ายต่อฟัน เช่น ฟันผุ, เหงือกอักเสบ, รากฟันละลาย จนนำไปถึงการสูญเสียฟัน เเละติดเชื้อรุนเเรง เเละยังมีความเสี่ยงมากที่อุปกรณ์จะหลุดลงหลอดลม เป็นอันตรายถึงชีวิตได้ เว็บตรง / บาคาร่าเว็บตรง